ผจญภัยผ่าสายน้ำโลว์ออกซิเจน : EP2 ร.เรือ



วันแรกที่เคยบอกไปในตอนที่แล้วว่า วันแรกเปปเดียวก็มาแล้ว ทำให้รู้สึกได้เลยว่า วันต่อไปๆ คงรอไม่นานหรอก แต่เอาเข้าจริง มาถึงที่ท่าเรือเร็วกว่าเดิมเพียงไม่กี่นาที ก็ได้พบกับเรือที่เเล่นมาจอดตรงท่าเรือ แต่ไม่ใช่ลำที่เราจะไป เพราะวิ่งมาจากท่าประสานมิตร มุ่งสู่ประตูน้ำ

" ไม่เป็นไร เดี่ยวก็มา "

สักพักเรือมาอีกละ แต่ก็ไม่ใช่ลำที่เราจะไปอยู่ดี

สักพักเรือมาอีกละ แต่ก็ยังไม่ใช่ลำที่เราจะไปอยู่ดี

และก็เป็นแบบนี้ 3-4 ลำ

สักพักแลไปทางขวา เฮ้ย!! เรือมาแล้วโว้ย

แต่ภาพที่เห็นคือ.........  เรือเปล่าครับ มีแต่คนขับเรือ ที่เร่งสปีด ยังกับ ไล่ล่าผู้ร้ายในหนังเจมส์บอนด์ พร้อมด้วยลูกสมุน ที่นั่งกินลมอย่างสบายใจ

" ไม่เป็นไร เดี่ยวก็มา "

สักพักเรือมาอีกละ แต่ ก็เป็นเรือเปล่าอีกแล้ว!!

เฮ้ย!! วันนี้มันงดรับผู้โดยสารหรือไงเนี่ย

สักพักเรือมาอีกละ แต่เป็นเรือที่มาจากท่าประสานมิตร

ผมก็ได้ใช้เวลายืนคอยเรือที่ต้องการใช้เวลาประมาณ 20 นาที ตอนนี้ผมได้เข้าใจชัดเจนแล้วว่า ทำไมวิชาภาษาต้องใช้อักษร ร แทนคำว่าเรือ  เพราะ รอเรือนานนี่เอง ( ใจอยากจะเล่นรอรักนะ แต่บทความนี้ไม่มีรักมาเกี่ยวข้อง เลยใช้ไม่ได้ 5555 )

และแล้วเรือที่ต้องการก็ได้มาเทียบท่าสะที พร้อมด้วยผู้โดยสารที่อัดแน่นเต็มลำ ผมก็ได้แอบเล็ง มันจะมาต่อเนื่องอีกลำไหม จะได้ไปรอขึ้นลำถัดไป ใช้เวลาแสกนประมาณ 5 วินาที ไม่เห็นวี่แวว ขืนรอลำต่อไป อาจจะต้องได้เห็นเรือเปล่า ไม่ก็ต้องขึ้นเรือที่มาจากประสานมิตรไปขึ้นต้นสายแน่ๆ

" เอาละขึ้นลำนี้ก็แล้วกัน "

ระยะเวลาการรอคอยวันนี้กับวันแรกช่างต่างกันลิบลับ แทบจะเปลี่ยนคำพูดเลย จะรถเมล์หรือเรือก็รอนานเหมือนกันละ

อย่าว่าแต่ช่วงเช้าเลย ช่วงเย็นก็เจออีก  "เรือเปล่าเนี่ย" ต่อไปนี้จะไม่เหลียวมองเรือที่วิ่งมาละ เมื่อใดที่พนักเก็บค่าโดยสารยืนบนเรือนั่นละ ค่อยดีใจ

แต่ถ้ามองในมุมกลับ เหมือนว่า ในช่วงเช้า จากวัดกลาง ไป ประตูน้ำ เรือจะให้บริการถี่กว่า ประตูน้ำ ไปวัดกลาง และในช่วงเย็นก็จะสลับกัน สรุปคือการรอเรือแต่ละครั้งกะเวลาไม่ได้ ใช่ไหมเนี่ย!! โอเค รอ เรือ ต่อไป

แต่เอาเข้าจริงการรอเรือเหมือนเป็นแค่การเปิดประตูการผจญภัย ความบันเทิงมันอยู่ตรงตอนเรือวิ่งเนี่ยละครับ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น