หนึ่งวันกับนิทรรศการพระเมรุมาศ ที่จะอยู่ในความทรงจำ

ในครั้งนี้ผมได้มีโอกาสไปเข้าไปเยี่ยมชมนิทรรศการพระเมรุมาศ ณ ท้องสนามหลวง โดยจะเปิดให้เข้าชมตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน ไปจนถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2560


โดยการเดินทางในครั้งนี้ผมได้มีแผนว่าจะเข้าชมนิทรรศการฯ ทั้งในช่วงเวลากลางวันและเวลากลางคืน โดยเริ่มจากการเดินทางนั่งรถไฟฟ้าบีทีเอส ไปลงสถานีสะพานตากสิน แล้วนั่งเรือด่วนเจ้าพระยาไปลงที่ท่าช้าง



เมื่อมาถึงที่ท่าช้าง เราต้องเดินไปที่บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นจุดคัดกรองก่อนที่จะเข้าชมนิทรรศการฯ 



เมื่อมาถึงเราจะได้รับบัตรคิวสีต่างๆ พร้อมกับแผ่นพับนิทรรศการฯ ซึ่งในแต่ละรอบ เราก็จะได้บัตรคิวที่สีแตกต่างกันออกไป และแต่ละรอบมีเวลา 1 ชั่วโมงในการเข้าชม



เมื่อถึงรอบของเราก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเปิดรั้วให้เข้าเยี่ยมชม โดยเริ่มจากการชมภูมิทัศน์แปลงนา โดยในจุดนี้ใช้ระยะเวลาการชมไม่นาน ต้องเข้าด้านในแล้ว




เมื่อเข้ามาทางด้านซ้ายจะพบกับพลับพลายกสนามหลวง 


โดยในจุดนี้เจ้าหน้าที่สามารถให้เราเดินได้อย่างอิสระตามพื้นที่ที่จัดแสดง โดยเราจะต้องบริหารเวลาเอง เมื่อครบรอบ จะมีเจ้าหน้าที่รายงานว่า ขณะนี้บัตรสี... ได้หมดเวลาแล้ว เราจึงนำบัตรไปคืนและรับโปสการ์ดที่ระลึก

โดยตัวผมเองจะเริ่มจากการเก็บภาพรอบๆ พระเมรุมาศ ก่อน







เราสามารถศึกษาส่วนประกอบต่างๆ ของพระเมรุมาศ จากป้ายจัดแสดง



นอกจากนี้บริเวณโดยรอบสระอโนดาด ที่มีเหล่าบรรดาสัตว์ป่าหิมพานต์หลากหลายชนิด ประดับในแต่ละทิศที่แตกต่างกันออกไป 








เมื่อเราเก็บภาพต่างๆ แล้ว ก็สามารถเข้าเยี่ยมชมนิทรรศการตามพื้นที่ต่างๆ เช่น



ศาลาลูกขุน 1 จะมีทั้งสิ้น 4 แห่ง จะเป็นการจัดแสดงให้ความรู้การสร้างพระเมรุมาศ แบบจำลองส่วนต่างๆ ให้ได้ศึกษาประวัติความเป็นมากันอย่างละเอียด นอกจากนี้ในแต่ละจุดยังมี QR Code เพื่อค้นหาความรู้เพิ่มเติม นอกเวลาจัดแสดง











ในส่วนของพระที่นั่งทรงธรรม จะเป็นการจัดแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ ของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ไว้อย่างครบครัน







และยังมีภาพวาดจิตรกรรมโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จำนวนทั้งสิ้น 46 โครงการ โดยจะมีทั้ง 3 จุดในบริเวณด้านในพระที่นั่งทรงธรรม 













นอกจากนี้ยังมีแบบจำลองของใช้ส่วนพระองค์ ที่มาจัดแสดงในพระที่นั่งทรงธรรมอีกด้วย




เกษตรทฤษฎีใหม่และหญ้าแฝก



ในพระที่นั่งทรงธรรมยังมีมุมให้สามารถถ่ายพระเมรุมาศฯ จากจุดนี้ได้อีกด้วย


เมื่อออกมาจากพระที่นั่งทรงธรรมก็จะพบกับ ศาลาลูกขุน 2 จะเป็นการจัดแสดงราชรถที่ใช้ในงานพระราชพิธีฯ 





ต่อมาเราสามารถเดินไปในส่วนของทับเกษตร ที่เป็นการจัดแสดงแบบจำลองสัตว์ป่าหิมพานต์ แบบต่าง ซึ่งในส่วนนี้ออกแบบมาเพื่อผู้พิการทางสายตา โดยจะมีอักษรเบลให้อ่านรายละเอียด





ในส่วนของ ศาลาลูกขุน 2 อีกจุดก็จะเป็นส่วนของการจัดแสดงแบบจำลองฉากบังเพลิงที่อยู่บนพระเมรุมาศฯ




หากเราเดินมาที่บริเวณด้านข้างพระที่นั่งทรงธรรมจะพบกับรูปปั้นคุณโจโฉและคุณทองแดง สุนัขทรงเลี้ยง ในหลวงรัชกาลที่ 9


เมื่อเราเข้าชมทุกส่วนแล้ว ทางออกจะถูกประดับด้วยดอกดาวเรือง โดยในจุดนี้สามารถเก็บภาพพระเมรุมาศฯ ได้อย่างงดงาม


จากนั้นผมก็ได้รอในรอบกลางคืนอีกครั้ง

โดยรอบกลางคืน มีผู้คนเข้ามาชมเป็นจำนวนมากซึ่งก็ประดับด้วยแสงไฟส่องสว่าง ได้ภาพบรรกาศอีกแบบหนึ่ง







โดยตลอดทั้งวันถือได้ว่าเป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากในการชมนิทรรศการฯ แม้ว่าช่วงเวลาในการรอเข้านิทรรศการฯ จะใช้เวลาไปพอสมควร แต่เชื่อได้เลยว่าเป็นการรอคอยที่คุ้มค่าที่สุด และจะอยู่ในความทรงจำตลอดไป


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น