The First Time in ปีนัง..เกาะแห่งศิลป์ เดินจนขาลาก : ตอนที่ 4

หลังจากที่เราลงมาจากปีนังฮิลล์กันแล้ว ก็อยากที่จะมาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันบ้าง เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล และได้รับสิ่งดีดีกลับไป



ก็ได้เดินทางต่อมายังที่วัดเก็กลกสี่ (Kek Lok Si) ที่เป็นวัดพุทธที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อนอื่นเลยเราต้องมากราบไหว้ท่านเทพทั้งสาม



เมื่อไหว้เสร็จเราก็ได้เดินสำรวจรอบๆ บริเวณวัด จะเห็นได้ว่าภายในวัดมีพื้นที่ที่กว้างมาก แต่ละจุดนั้นก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ทำให้เราได้เพลิดเพลินพร้อมกับอิ่มบุญ






แต่จุดเด่นที่เป็นไฮไลท์ของวัดนี้ก็คือ เจดีย์สมเด็จพระรามหก (เจดีย์พระพุทธเจ้า 10,000 พระองค์) แต่เป็นที่น่าเสียดาย ในช่วงระหว่างที่เราไปนั้น เขาปิดปรับปรุง ทำให้ไม่สามารถขึ้นไปถึงได้ ทำได้เพียงแค่ชมความงามอยู่ระยะไกล


หลังจากที่เราได้ทำำบุญกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ถึงเวลาไป ตามล่า โพสท่า ในสตรีทอาร์ท กันเถอะ

โดยสตรีทอาร์ทแต่ละแห่งนั้นจะกระจายอยู่รอบๆ จอร์จทาวน์  อยู่หลายจุดด้วยกัน สามารถค้นหาได้ตาม Google Map หรือแผ่นพับที่มีแจกอยู่ตามที่พัก ร้านกาแฟ




ถ้าหากใครมาเที่ยวปีนังแล้วไม่ได้ถ่ายคู่กับ Street Art ที่ชื่อว่า Kids on Bicycle ถือว่ามาไม่ถึงกันนะ เอาแชะสักหนึ่งรูป!!


ซึ่งตัวผมเองก็มีหน้าที่เป็นช่างกล้อง ก็คงไม่มีรูปตัวเองมากนัก 5555 ทำไงได้ละ ก็ถ่ายคนอื่นวนไป แต่อย่างน้อยๆ ก็ได้รูปจากมีช่างกล้อง น่ารักๆ อยู่เหมือนกันนะ  แม้จะแค่ไม่กี่รูปก็ตาม อิอิ


หลังจากที่เราตามถ่ายรูปแต่ละจุดของ Street Art แล้ว ไหนๆ ก็มาภูมิประเทศที่เป็นเกาะทั้งทีแล้ว ก็ต้องได้เห็นชายหาดกันบ้าง

เราจึงปักหมุดไปที่ ชายหาดบาตู และได้ใช้บริการแกร็บเช่นเคย ซึงเดินทางจากย่านจร์อจทาวน์ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที


โดยชาดหาดแห่งนี้มีน้ำทะเลที่สวยใสมาก และสามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน ได้สุดแสนโรแมนติก แต่ถ้าคนโสดมาคนเดียว อาจจะมีน้ำตาซึม เพราะส่วนใหญ่จะมีแต่คู่รักมาเดินเคียงคู่ สวีทกันอยู่ให้เห็นตลอดทั้งแนวชายหาด แต่ขอบอกก่อนนะครับว่า ไม่ได้มีคู่คู่รักหนุ่มสาวเท่านั้น ยังมีคู่รักเพศเดียวกันด้วย อุ๊บส์!!


ชายหาดบาตูนอกจากมีทะเลสวยใสแล้ว ยังมีตลาดกลางคืนให้เดินเล่น อารมณ์แบบจตุจักร ตลาดนัดรถไฟบ้านเรา นั้นเอง และมีของอร่อยๆ อาหารนานาชาติอีกเพียบ

และแล้วก็หมดเวลาของวันนี้ โดยพวกเราก็สามารถทำทั้ง 7 ภารกิจที่ได้มอบหมายจนสำเร็จ และได้เตรียมเก็บข้าวของซื้อของฝากเตรียมกลับไทยในวันรุ่งขึ้น


เช้าวันต่อมาพวกเราก็เตรียมนั่งรถจากมาเลเซียสู่ไทย กลับถึงโดยสวัสดิ์ภาพกันทุกคนเลย..



ต้องขอขอบคุณผู้ร่วมเดินทางทุกๆ ท่านที่คอยพูดคุย ไปไหนไปด้วยกัน หลงก็หลงด้วยกัน ถึงแม้ว่าแผนบางอย่างอาจจะไม่ตรงทำเราตั้งไว้ แต่อย่างน้อยหัวใจที่ส่งถึงไป ก็คงถึงกัน แม้ว่านี่จะเป็นทริปต่างประเทศครั้งแรกของผม ที่ได้มาเขียนบอกเล่าสิ่งต่างๆ อาจจะยาวหลายตอนแต่ก็ขอขอบคุณนะครับ ที่อ่านมาถึงจุดนี้ และขอทิ้งท้ายไว้ว่า " เราจะไม่มีปัญหากับปีนัง บอกให้ดังว่าฉันนั้น Love You "  ขอบคุณครับ


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น