เมื่อครั้งที่เราขึ้นไปบนนั้น ใช้การเดินทางโดยการนั่งรถไฟไปนครสวรรค์ (แค่อยากนั่งรถไฟเฉย ๆ) จากนั้นต่อรถทัวร์ไปลงที่ขนส่งอำเภอเมือง จังหวัดตาก แล้วก็ต้องค้างที่นั่น 1 คืนเพราะไม่มีรถไปท่าสองยาง ซึ่งจะเริ่มออกจากท่ารถในเที่ยวแรกตอน 6 โมงเช้า
ตอนแรกเราคาดว่าคงจะไปถึงท่าสองยางกันไม่เกิน 9 โมง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ กว่าจะไปถึงท่าสองยาง ในจุดที่นัดกับทางเจ้าหน้าที่ไว้ เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสิบโมงแล้ว และพวกเราก็เลือกที่จะไม่หยุดพักเพื่อทานมือเช้ากัน แต่เลือกที่จะเดินทางขึ้นไปบนดอยทูเลทันที แล้วค่อยเอาเสบียงที่เตรียมไว้ออกมากินในระหว่างทาง
ถึงแม้จะเป็นช่วงเดือนธันวาคม แต่สภาพอากาศไม่ได้หนาวมากอย่างที่คาดหวังว่าจะได้เจอ แดดค่อนข้างแรงและในหลาย ๆ จุดก็ไม่ได้มีร่มไม้มากนัก เดินกันท่ามกลางแดดเปรี้ยง เหงื่อโทรมกายหลังจากเดินขึ้นมาได้ไม่นาน จนต้องถอดเสื้อตัวนอกแล้วเหลือแต่เสื้อยืดเดินลุยป่าเข้าไป โดยมีพี่ลูกหาบแบกสัมภาระพร้อมกับเป็นผู้นำทางเราไปข้างหน้า
ในครั้งนั้นถือเป็นการเดินป่าครั้งแรกของตัวเราเองแล้วก็เพื่อนอีกคนนึงด้วย เริ่มเดินมากันตั้งแต่ 10.20 น. แต่ตอนนี้ 15.00 เข้าไปแล้ว รู้สึกว่าหนทางยังอีกไกลเหลือเกิน ทางเดินที่นี่ถือว่าชันอยู่ไม่น้อย แม้พื้นดินจะแห้งเพราะไม่มีฝน แต่การที่เราต้องเดินขึ้นเขาอยู่เสมอทำให้บั่นทอนกำลังไปมากเหลือเกิน จนต้องหยุดพักกันแทบจะทุกครั้งที่เจอพื้นที่ร่ม
พวกเราขึ้นไปจุดกลางเต็นท์กันตอนประมาณ 17.00 น. รวม ๆ แล้วใช้เวลาในการเดินขึ้นมานานถึง 6 ชั่วโมงกว่า แข้งขาแทบจะหมดแรง พอวางสัมภาระไว้เสร็จก็เดินไปที่จุดชมวิว นั่งเหยียดแขนเหยียดขา ดูตะวันค่อย ๆ ลับขอบฟ้าอย่างเงียบ ๆ แล้วก็ลุกขึ้นมาหยิบกล้องถ่ายรูปบันทึกความทรงจำเก็บไว้เล็กน้อย
การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นความประทับใจแรกที่มีในการเดินป่า มันเป็นครั้งแรกด้วย รวมไปถึงบนนั้นมีคนน้อยมาก มีกลุ่มเรา แล้วก็นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ กับลูกหาบ รวมกันแล้วมีแค่ 13 คนเท่านั้น ซึ่งในตอนค่ำพวกเราก็มารวมกลุ่มนั่งพูดคุย ร่วมทานอาหาร ทำความรู้จักกันอย่างกลมเกลียว เราต่างสนใจในความสัมพันธ์ใหม่ ๆ กับคนแปลกหน้า โดยลืมเรื่องอื่น ๆ ไปชั่วขณะ
ยิ่งดึกมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งหนาวขึ้นทุกที แต่ตอนนั้นเราสนใจที่จะออกไปดูดาวบนท้องฟ้ามากกว่าสิ่งใด โดยไม่ได้สนใจมือถือของตัวเอง ผละจากโลกโซเชียล ลืมเรื่องทีมฟุตบอลที่จะลงแข่งในคืนวันเสาร์ หรือการแทงบอลออนไลน์ไปโดยสิ้นเชิง
*บทความเพื่อการโฆษณา
ตอนแรกเราคาดว่าคงจะไปถึงท่าสองยางกันไม่เกิน 9 โมง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ กว่าจะไปถึงท่าสองยาง ในจุดที่นัดกับทางเจ้าหน้าที่ไว้ เวลาก็ปาเข้าไปเกือบสิบโมงแล้ว และพวกเราก็เลือกที่จะไม่หยุดพักเพื่อทานมือเช้ากัน แต่เลือกที่จะเดินทางขึ้นไปบนดอยทูเลทันที แล้วค่อยเอาเสบียงที่เตรียมไว้ออกมากินในระหว่างทาง
ถึงแม้จะเป็นช่วงเดือนธันวาคม แต่สภาพอากาศไม่ได้หนาวมากอย่างที่คาดหวังว่าจะได้เจอ แดดค่อนข้างแรงและในหลาย ๆ จุดก็ไม่ได้มีร่มไม้มากนัก เดินกันท่ามกลางแดดเปรี้ยง เหงื่อโทรมกายหลังจากเดินขึ้นมาได้ไม่นาน จนต้องถอดเสื้อตัวนอกแล้วเหลือแต่เสื้อยืดเดินลุยป่าเข้าไป โดยมีพี่ลูกหาบแบกสัมภาระพร้อมกับเป็นผู้นำทางเราไปข้างหน้า
ในครั้งนั้นถือเป็นการเดินป่าครั้งแรกของตัวเราเองแล้วก็เพื่อนอีกคนนึงด้วย เริ่มเดินมากันตั้งแต่ 10.20 น. แต่ตอนนี้ 15.00 เข้าไปแล้ว รู้สึกว่าหนทางยังอีกไกลเหลือเกิน ทางเดินที่นี่ถือว่าชันอยู่ไม่น้อย แม้พื้นดินจะแห้งเพราะไม่มีฝน แต่การที่เราต้องเดินขึ้นเขาอยู่เสมอทำให้บั่นทอนกำลังไปมากเหลือเกิน จนต้องหยุดพักกันแทบจะทุกครั้งที่เจอพื้นที่ร่ม
พวกเราขึ้นไปจุดกลางเต็นท์กันตอนประมาณ 17.00 น. รวม ๆ แล้วใช้เวลาในการเดินขึ้นมานานถึง 6 ชั่วโมงกว่า แข้งขาแทบจะหมดแรง พอวางสัมภาระไว้เสร็จก็เดินไปที่จุดชมวิว นั่งเหยียดแขนเหยียดขา ดูตะวันค่อย ๆ ลับขอบฟ้าอย่างเงียบ ๆ แล้วก็ลุกขึ้นมาหยิบกล้องถ่ายรูปบันทึกความทรงจำเก็บไว้เล็กน้อย
การเดินทางครั้งนี้ถือเป็นความประทับใจแรกที่มีในการเดินป่า มันเป็นครั้งแรกด้วย รวมไปถึงบนนั้นมีคนน้อยมาก มีกลุ่มเรา แล้วก็นักท่องเที่ยวคนอื่น ๆ กับลูกหาบ รวมกันแล้วมีแค่ 13 คนเท่านั้น ซึ่งในตอนค่ำพวกเราก็มารวมกลุ่มนั่งพูดคุย ร่วมทานอาหาร ทำความรู้จักกันอย่างกลมเกลียว เราต่างสนใจในความสัมพันธ์ใหม่ ๆ กับคนแปลกหน้า โดยลืมเรื่องอื่น ๆ ไปชั่วขณะ
ยิ่งดึกมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งหนาวขึ้นทุกที แต่ตอนนั้นเราสนใจที่จะออกไปดูดาวบนท้องฟ้ามากกว่าสิ่งใด โดยไม่ได้สนใจมือถือของตัวเอง ผละจากโลกโซเชียล ลืมเรื่องทีมฟุตบอลที่จะลงแข่งในคืนวันเสาร์ หรือการแทงบอลออนไลน์ไปโดยสิ้นเชิง
*บทความเพื่อการโฆษณา


0 ความคิดเห็น